ภาพยนตร์ เสวนา และเวิร์กช็อป
ชมภาพยนตร์เรื่อง “The Genealogy of Sake” รวมถึงเสวนาและเวิร์กช็อปในงาน “ชม ชิม สาเกและสาโท: ความเหมือนที่แตกต่างภูมิปัญญาพื้นบ้านของญี่ปุ่นและไทย”

|
เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ผ่านศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ขอนแก่น (TCDC ขอนแก่น) จัดกิจกรรมพิเศษ “ชม ชิม สาเกและสาโท: ความเหมือนที่แตกต่างภูมิปัญญาพื้นบ้านของญี่ปุ่นและไทย” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านอาหารในงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้หัวข้อ “อีสานโชว์พ(ร)าว: ISAN SO(UL) PROUD” ในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:00 – 18:00 ณ KHONTEMPORARY จังหวัดขอนแก่น
ญี่ปุ่นและไทยต่างมีจุดร่วมที่สำคัญคือมี“ข้าว”เป็นอาหารหลักที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต ญี่ปุ่นและไทยมีจุดร่วมที่ข้าวเป็นอาหารหลักและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต นอกจากการปลูกข้าวแล้ว ทั้งสองประเทศยังมีองค์ความรู้ท้องถิ่นและวิธีการหมักข้าวเพื่อแปรรูปเป็นสาเกในญี่ปุ่นและสาโทในไทย เครื่องดื่มสองชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ในญี่ปุ่น สาเกเคยเป็นเครื่องดื่มที่สงวนไว้ใช้เฉพาะพิธีกรรมทางศาสนาโดยราชวงศ์และชนชั้นสูง ก่อนที่จะเริ่มแพร่หลายในวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยเฉพาะในงานมงคลหรืองานเฉลิมฉลอง เช่น งานแต่งงาน ทักษะและเทคนิคในการทำสาเกพัฒนาขึ้นในช่วงสมัยมุโรมาจิ (ค.ศ. 1336-1573) และเกิดการขยายตัวทางการค้าในการผลิตสาเก ก่อนจะรุ่งเรืองในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603 – 1868) ซึ่งทำให้สาเกได้รับความนิยมมากขึ้น ในขณะเดียวกัน สาโทของไทยมีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งนิยมดื่มในพิธีกรรมแบบดั้งเดิมและงานรื่นเริงมาช้านาน นอกจากนี้ พวกเขายังเสิร์ฟสาโทเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับอย่างอบอุ่นแก่สมาชิกในครอบครัว ญาติ เพื่อน หรือแขกที่มาเยือนในโอกาสมงคลภายในหมู่บ้าน แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสาโทจะเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง แต่ต่างจากสาเก สาโทยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและยังคงมีการผลิตอย่างจำกัดจนถึงปัจจุบัน แม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ในอดีตสาเกจะเคยได้รับความนิยม และความรู้เกี่ยวกับสาโทจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เส้นทางของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสองชนิดนี้กลับอยู่ในจุดที่ไม่แน่นอน ในญี่ปุ่นสาเกมีอัตราการบริโภคลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ธุรกิจที่อยู่รอดก็ลดน้อยลงในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสาโทก็ยังคงต่อสู้อย่างหนักเพื่อไม่ให้เลือนหายไป
เพื่อสร้างความเข้าใจและอภิปรายในประเด็นข้างต้น เรายินดีที่จะนำเสนอทั้งสามกิจกรรมในซีรีส์นี้ โดยกิจกรรมแรกคือ การฉายสารคดีเรื่อง“The Genealogy of Sake” กำกับโดย อิชิอิ คาโอริ ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทำสาเกในเขตโนโตะ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด สารคดีสำรวจชีวิตการทำงานอย่างเข้มข้นของปรมาจารย์ด้านสาเกทั้งสี่ หรือที่รู้จักกันในนาม “ราชาสาเกแห่งโนโตะ” ซึ่งรวมถึงโทจิ (ช่างฝีมือผลิตสาเก) วัย 80 ปีที่หวนกลับสู่วงการอีกครั้ง พร้อมด้วยลูกศิษย์ของพวกเขา เช่น โทจิหญิงคนแรกที่ได้เข้าร่วมสมาคมโทจิแห่งโนโตะ และโทจิหนุ่มผู้มีแนวทางการทำงานแบบใหม่ เรื่องราวเหล่านี้เผยให้เห็นถึงเบื้องลึกของการทำสาเกในยุคปัจจุบัน และความยากลำบากในการถ่ายทอดศิลปะนี้จากรุ่นสู่รุ่น

กิจกรรมที่สอง คือ การเสวนาพิเศษในหัวข้อ “สาเกและสาโท: สำรวจความหลากหลายของการบรรจบของภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยและญี่ปุ่น” โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นและชาวไทย 3 ท่านมาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองเกี่ยวสาเกและสาโทผ่านแง่มุมทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ก่อนที่จะเข้าสู่การพูดคุยเกี่ยวกับความท้าทายที่กำลังเผชิญในปัจจุบันและแนวทางในอนาคต
กิจกรรมสุดท้ายภายใต้ธีมงานเดียวกัน คือการเวิร์กช็อปการชิมสาเกและสาโทซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากตัวอย่างสาเกและสาโทที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันผ่านการ “ชิม” หลังจากที่ได้ “ชม” สารคดีและ “ฟัง” การเสวนาไปแล้ว
กำหนดการของทั้ง 3 กิจกรรมมีดังนี้
สถานที่จัดงาน: KHONTEMPORARY ขอนแก่น
15:00 – 16:45 ฉายสารคดีเรื่อง “The Genealogy of Sake” *
16:45 – 17:45 เสวนาในหัวข้อ “ชม ชิม สาเกและสาโท: ความเหมือนที่แตกต่างภูมิปัญญาพื้นบ้านของญี่ปุ่นและไทย” *
18:00 – 18:30 เวิร์กช็อปชิมสาเกและสาโท**
หมายเหตุ:
**เวิร์กช็อปชิมสาเกและสาโท: มีค่าเข้าร่วม 100 บาทต่อคน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือ walk-inได้เช่นกัน โดยชำระเงินเป็นเงินสดที่หน้างาน
**ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปจำเป็นต้องเข้าร่วมการชมสารคดี “The Genealogy of Sake” และฟังการเสวนาก่อน การเข้าร่วมเวิร์กช็อปโดยไม่ชมสารคดีหรือฟังการเสวนาก่อน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
ลิงก์ลงทะเบียน: https://forms.gle/bwagjKe3mcJEAMKs9
วิทยากรทั้งสามท่าน ได้แก่:
- คุณ โอตสึโบะ โทโมฮิโระ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิบาทายะ (ประเทศไทย) จำกัด - คุณ นิธิภา ทองปัชโชติ
วิทยากรที่ได้รับการรับรองจากสมาคมสาเกญี่ปุ่น (JSA Certified Instructor), SSA Certified Sake Sommelier และเจ้าของร้าน The Sake Room - คุณ ปาณิศา อุปฮาด
ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านโนนเชือก (โรงเบียร์คูน) และผู้จัดการธุรกิจคูน
ข้อมูลวิทยากร

คุณ โอตสึโบะ โทโมฮิโระ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิบาทายะ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท ชิบาทายะ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ที่กรุงเทพฯ เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยมีพันธกิจในการส่งมอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสู่ตลาดไทย บริษัททำงานร่วมกับโรงเบียร์ชั้นยอดทั่วญี่ปุ่น เพื่อคัดสรรสาเก โชจู เหล้าบ๊วย คราฟต์เบียร์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างพิถีพิถันให้กับร้านอาหาร ผู้ค้าปลีก และโรงแรมในประเทศไทย

คุณ นิธิภา ทองพุทธโชติ
วิทยากรที่ได้รับการรับรองจากสมาคมสาเกญี่ปุ่น (JSA Certified Instructor), SSA Certified Sake Sommelier และเจ้าของร้าน The Sake Room
เกิดที่กรุงเทพฯ คุณนิธิภามีความสนใจในด้านการบริการแบบญี่ปุ่น อาหาร และเครื่องดื่ม โดยได้นำความรู้และประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจมาใช้ในการพัฒนาเส้นทางอาชีพในปัจจุบัน ด้วยความหลงใหลในสาเก เธอจึงได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาเก โดยได้รับการรับรองเป็นวิทยากรจากสมาคมสาเกญี่ปุ่น (JSA Certified Instructor – JAPAN SAKE ASSOCIATION) และ SSA Certified Sake Sommelier นอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของร้าน The Sake Room อีกด้วย

คุณปาณิศา อุปฮาด
ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านโนนเชือก (โรงเบียร์คูน) และผู้จัดการธุรกิจคูน
บุตรสาวของสวาท อุปฮาด เป็นทายาทรุ่นที่สามผู้สืบทอดองค์ความรู้ในการทำสาโท ภายใต้แบรนด์ “คูน” เธอเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและคณะกรรมการของตลาดสีเขียวคนขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2558
ปัจจุบันเธอจัดบรรยายและเวิร์กช็อปเพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการทำสาโท เพื่อให้ผู้คนได้เข้าใจวิถีชีวิตท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับเทศกาลสร้างสรรค์อีสาน
เทศกาลสร้างสรรค์อีสาน 2025 (ISANCF2025) ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว: ISAN SO(UL) PROUD” เป็นงานเฉลิมฉลองประจำปีครั้งที่ 5 ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) เทศกาลนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของภาคอีสานใน 3 มิติหลักที่เต็มไปด้วย “โอกาส” สำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานสร้างสรรค์ ได้แก่ โอกาสจากทุนทางวัฒนธรรม (Content Base) ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า โอกาสจากศักยภาพระดับภูมิภาค (Area Base) ที่มีภูมิทัศน์และชุมชนในภูมิภาคที่มีชีวิตชีวา และโอกาสจากอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Industries Base) ที่มีอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่กำลังเติบโต ไม่ว่าจะเป็นศิลปะและหัตถกรรมไปจนถึงอาหาร (Industries Base) เทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายนถึง 6 กรกฎาคม 2568 ณ สถานที่ต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่นและทั่วภาคอีสาน โดยเชิญชวนผู้สร้างสรรค์ ผู้ประกอบการ และเครือข่ายทางวัฒนธรรมมาจัดแสดง เชื่อมโยง และจินตนาการอีสานผ่านมุมมองสร้างสรรค์ของตนเอง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.isancreativefestival.com/
ติอต่อสอบถาม
เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
ชั้น 10 อาคารเสริมมิตร ทาวเวอร์ 159 ถ.สุขุมวิท 21 กรุงเทพฯ 10110
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ acdept_jfbkk@jpf.go.jp
ร่วมจัดโดย:
